สวัสดีครับเพื่อนๆ เมื่อสงกรานต์ 2558 ที่ผ่านมา ผมพาครอบครัวกลับ้านที่ต่างจังหวัด จ.พิจิตร และได้มีโอกาสไปเที่ยวที่วัดสมอแครง เมื่อขึ้นเขาไปสักครึ่งทางก็พบกับจุดชมวิว ที่ไม่ธรรมดา ที่มีเขียนว่าดอยสุเทพ 2 เกิดเรื่องราวมากมายที่ประทับใจ ทั้งเรื่องที่ถ่ายภาพคู่กับภรรยา เรื่องแนวความคิด เรื่องการกินเจ เรื่องของความรู้สึกดีๆ และเรื่องของ UD ที่ผมอยากใช้คำว่า "บังเอิญยูดี" หรือจะ "ยูดีบังเอิญ" ก็ได้ และขอนำมาแบ่งปันในบทความนี้ ที่เว็บบล็อก "UD Preeda" หรือ "อยู่ดีปรีดา" ครับ (ขอยาวนิดนะครับ เพราะประทับใจมาก ผมขอโทษเรื่องเดียวคือ ภาพถ่ายน้อยเนื่องจากไม่ได้เตรียมกล้องไปด้วยครับ)
เริ่มจากอากาศร้อนมาก ตั้งใจไว้เลยว่าจะไม่ลงจากรถ จะอยู่ในรถเปิดเครื่องเปิดแอร์ไว้ และที่สำคัญมีสถานที่มากมายที่ส่วนใหญ่ไม่ยูดี รถเข็นเข้าถึงลำบาก ปรากฏว่าลานจอดรถกับจุดชมวิว ห่างกันมากน่าจะสัก 200 เมตรได้ ในใจคิดว่าไม่อยากให้แม่แมต ภรรยา และลูก เดินร้อน จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "ผมเป็นคนพิการ ขอไปลงใกล้ๆ ได้ไหม แล้วค่อยวนรถมาจอด"ทาง จนท. จึงอนุญาต พอถึงหน้าประตูทางเข้าก็มี จนท.เดินมาบอกว่า ตรงนี้ (คือหน้าประตู) สามารถจอดได้ 1 คัน คือ วีไอพี (VIP) มากๆ ผมจึงตัดสินใจลง ในใจคิดแค่ว่า ถ้าไม่ลงไม่ได้ เนื่องจาก จนท.ตั้งใจให้เราจอดหน้าประตูเลย แต่ก็ยังคิดต่อไปอีกว่า ข้างในผมคงไม่ได้มีส่วนร่วมสักเท่าไหร่ คงจะบันไดเพียบ ก็แค่เข้าไปนั่งรอเฉยๆ เท่านั้น
ปัญหาแรกๆ ของผมคือ ลืมนำเบาะนั่งมา ใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีที่ต้องขอบคุณลูก เพราะนำผ้าห่มที่ลูกนำติดรถเวลานอนมาแทนเบาะรองนั่ง หน้าประตูทางเข้าเป็นทางลาด ที่ผมจินตนาการไปว่าบันไดจะต้องเยอะแน่ๆ เนื่องจุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้บันไดในการเชื่อมพื้นที่มีมีความสูง-ต่ำ ไม่เท่ากัน ผิดคาดครับ ที่นี่ปล่อยพื้นที่ลาดเอียงของเขาไปตามธรรมชาติ ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ที่นี่ใช้การปูกระเบื้องเป็นหลัก และใช้ลายเป็นตัวแบ่งพื้นที่และนำสายตาตรงบริเวณที่มีความลาดเอียงมากๆ ทำให้ผมสามารถเข้าถึงพื้นที่สำคัญๆ ได้เกือบหมด น่าให้สัญลักษณ์ "PWD Pass" อย่างมาก
พื้นที่จุดชมวิวทั้งหมด เข้าถึงได้ทั้งหมดเลยนะครับ เป็นทางลาดทั้งหมด แม้ว่าหน้าทางขึ้นจะมีบันได แต่ด้านข้างมีทางลาด และเป็นทางลาดที่ใหญ่มากๆ ด้วยครับ ความประทับใจยังไม่หมด เราไปถึงก่อนเที่ยงพอดี จึงไปที่โรงครัวเพื่อไปทานอาหารเจด้วยกัน รถเข็นทั้งผมที่พิการและผู้สูงอายุ เข้าถึงสบายมากเนื่องจากพื้นเชื่อมต่อถึงกันหมด ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากความตั้งใจ คือ ผู้ออกแบบมีความรู้เรื่องการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) รึเปล่า หรือเป็นการออกแบบที่แก้ไขปัญหาสภาพพื้นที่มีความลาดเอียงตามสภาพภูเขาเดิม อย่างลงตัว
ในระหว่างเดินทางกลับ ผมยังได้พูดคุยในรถว่า ที่นี่แม้ไม่มีที่จอดรถคนพิการ แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนมี ยูดีในหัวใจ สถานที่ก็ยูดี จะต้องกลับมาให้ได้อีกครั้ง เพื่อนๆ ลองไปเยี่ยมชมดูกันนะครับ โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนพิการ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงครับ
เริ่มจากอากาศร้อนมาก ตั้งใจไว้เลยว่าจะไม่ลงจากรถ จะอยู่ในรถเปิดเครื่องเปิดแอร์ไว้ และที่สำคัญมีสถานที่มากมายที่ส่วนใหญ่ไม่ยูดี รถเข็นเข้าถึงลำบาก ปรากฏว่าลานจอดรถกับจุดชมวิว ห่างกันมากน่าจะสัก 200 เมตรได้ ในใจคิดว่าไม่อยากให้แม่แมต ภรรยา และลูก เดินร้อน จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "ผมเป็นคนพิการ ขอไปลงใกล้ๆ ได้ไหม แล้วค่อยวนรถมาจอด"ทาง จนท. จึงอนุญาต พอถึงหน้าประตูทางเข้าก็มี จนท.เดินมาบอกว่า ตรงนี้ (คือหน้าประตู) สามารถจอดได้ 1 คัน คือ วีไอพี (VIP) มากๆ ผมจึงตัดสินใจลง ในใจคิดแค่ว่า ถ้าไม่ลงไม่ได้ เนื่องจาก จนท.ตั้งใจให้เราจอดหน้าประตูเลย แต่ก็ยังคิดต่อไปอีกว่า ข้างในผมคงไม่ได้มีส่วนร่วมสักเท่าไหร่ คงจะบันไดเพียบ ก็แค่เข้าไปนั่งรอเฉยๆ เท่านั้น
กำลังเตรียมตัวลงจากรถครับ
ผ้าห่มลูก (หนูนา) ใช้แทนเบาะรองนั่งอย่างดี
ปัญหาแรกๆ ของผมคือ ลืมนำเบาะนั่งมา ใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีที่ต้องขอบคุณลูก เพราะนำผ้าห่มที่ลูกนำติดรถเวลานอนมาแทนเบาะรองนั่ง หน้าประตูทางเข้าเป็นทางลาด ที่ผมจินตนาการไปว่าบันไดจะต้องเยอะแน่ๆ เนื่องจุดชมวิวนี้ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้บันไดในการเชื่อมพื้นที่มีมีความสูง-ต่ำ ไม่เท่ากัน ผิดคาดครับ ที่นี่ปล่อยพื้นที่ลาดเอียงของเขาไปตามธรรมชาติ ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ที่นี่ใช้การปูกระเบื้องเป็นหลัก และใช้ลายเป็นตัวแบ่งพื้นที่และนำสายตาตรงบริเวณที่มีความลาดเอียงมากๆ ทำให้ผมสามารถเข้าถึงพื้นที่สำคัญๆ ได้เกือบหมด น่าให้สัญลักษณ์ "PWD Pass" อย่างมาก
พื้นที่จุดชมวิวทั้งหมด เข้าถึงได้ทั้งหมดเลยนะครับ เป็นทางลาดทั้งหมด แม้ว่าหน้าทางขึ้นจะมีบันได แต่ด้านข้างมีทางลาด และเป็นทางลาดที่ใหญ่มากๆ ด้วยครับ ความประทับใจยังไม่หมด เราไปถึงก่อนเที่ยงพอดี จึงไปที่โรงครัวเพื่อไปทานอาหารเจด้วยกัน รถเข็นทั้งผมที่พิการและผู้สูงอายุ เข้าถึงสบายมากเนื่องจากพื้นเชื่อมต่อถึงกันหมด ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากความตั้งใจ คือ ผู้ออกแบบมีความรู้เรื่องการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) รึเปล่า หรือเป็นการออกแบบที่แก้ไขปัญหาสภาพพื้นที่มีความลาดเอียงตามสภาพภูเขาเดิม อย่างลงตัว
พื้นข้างในจุดชมวิวทั้งหมด แทบไม่มีบันได ยกเว้นบางจุดเท่านั้น
กำลังออกจากจุดชมวิว ที่สุดแสนประทับใจ
ในระหว่างเดินทางกลับ ผมยังได้พูดคุยในรถว่า ที่นี่แม้ไม่มีที่จอดรถคนพิการ แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนมี ยูดีในหัวใจ สถานที่ก็ยูดี จะต้องกลับมาให้ได้อีกครั้ง เพื่อนๆ ลองไปเยี่ยมชมดูกันนะครับ โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนพิการ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น